ไม่เคยเจอยางที่ทนไม้ทนมือขนาดนี้มานานมากกกก!
จากที่เคยรีวิวไปเมื่อโพสนี้เมื่อเดือนก่อนโพสนี้ “Vredstine centuro st ยางสำหรับรถทัวร์ริ่งโดยเฉพาะ” ตัดมาที่ตอนนี้สภาพที่เห็นคือใช้งานมาเเล้ว 1 เดือน กับทริปล่าสุดแบกขนาดนี้ ระยะทาง 1,500 กม กรุงเทพ-เชียงราย รวมระยะทางที่ใช้มาทั้งหมดก็ 3,000 กม. อย่างต่ำ จะเห็นได้เลยว่ายางสึกหรอน้อยมากๆเทียบกับตอนที่ใส่น้อง “VREDSTINE CENTURO ST (เฟรดเดอร์สไตน์ เซนทูโร่ เอส ที)” ยางเนเธอแลนด์ที่บรรยายสรรพคุณไปเเล้ว(ไปย้อนดูเอา)มาแรกๆ ครั้งนี้มาดูฟีลลิ่งกันเลยว่าเทียบกับยางที่ผมยกให้เป็นยางที่ดีที่สุดสำหรับผมคือ ContitrailAttack3 คู่ล่ะหมื่นสองแล้วเป็นยังไง
ดูราคากันก่อน
ยางหน้า 120 ยางหลัง 160 ราคาอยู่ที่คู่ละ 7 , 0 0 0 บาทเท่านั้น
ข้อมูลเบื้องต้น VREDSTINE CENTURO ST (เฟรดเดอร์สไตน์ เซนทูโร่ เอส ที)
- ยางตัวนี้เป็นแบบ Compound เดียวจะบอกว่าแข็งทั้งเส้นก้ไม่เชิงนะ เเต่เอาง่ายๆเค้าเน้นทน
- ลมยางใช้งาน 32-36
- ออกทริปใช้ 35-45 ซ้อน 2 ปี๊ป 3 ใบบรรทุกเต็มอัตราศึก
- ยางมีการมาร์คน้ำหนักมาด้วยตรงจุกเติมลมยางทำให้ศูนย์ถ่วงของยางดีในระดับหนึ่งตั้งแต่ต้น(นี่อาจเป็นคีย์ของความนิ่งด้วยก็ได้นะ)
ถนนแห้ง
การใช้งานถนนแห้งหมดห่วงครับขี่ได้อย่างสบายใจยึดเกาะได้ดี ยกตัวอย่างเส้น 12 ที่ลงจากตาก ผ่านหน้า อช.ตากสิน ลงมาคลองวังเจ้าที่จังหวัดกำเเพงเพชร ผมบรรทุกเต็มที่เข้าโค้งพับซ้ายขวาได้นิ่งๆยางไม่มีอาการเลยแม้เเต่นิดเดียว ที่สำคัญคือการทรงตัวของยางทำได้ดีมาก นิ่งมากไม่มีโคลง ซึ่งถ้าโครงยางไม่แข็งแรง การบรรทุกหนักเเละเข้าโค้งแรงๆรถจะมีอาการยวบยาบเพิ่มมาอีก
ถนนเปียก
จุดนี้ทำได้ดีครับทริปที่ผ่านมาขาขึ้นจากกำแพงเพชรไปตาก เจอฝนตกตอนตี 4 ตี 5 ถนนก็มืดบ้างสว่างๆบ้าง ถ้ายางไม่ดีจริงผมคงต้องจอดและรอฝนหยุดหรือไม่ก็รอเช้าเลย เเต่ก็ลองๆขี่ดูก่อนและสังเกตุการรีดน้ำโดยมองผ่านกระจก ละอองน้ำฟุ้งขึ้นมาเป็นฝอย ด้วยร่องดอกยางที่เยอะผมไม่แปลกใจเลยที่มันจะรีดน้ำได้ดีแบบนี้เอาเป็นว่าจุดนี้สบายใจได้ครับ แต่ก็อย่าลืมใช้ความระมัดระวังด้วยเพราะต่อให้ยางอะไรเทพขนาดไหน ถ้าเปิดคันเร่งผิดจังหวะ หรือคุณบิดแบบไม่สนใจอะไรเลยยังไงก็ลื่น!
อัตราการสึกหรอ
ในเรื่องนี้ผมคิดว่าเด่นมากสำหรับยางตัวนี้เลยครับเพราะแปลกใจมาก!! ที่วิ่งใช้งานไปขนาดนี้เเล้วการสึกหรอยังน้อยมาก ปุ่มยางที่สะพานยางยังเเทบไม่ลด แล้วคุณดูการบรทุก การเปิดคันเร่งหนักๆ การบิดเเช่ 140 150 ตลอดทางกับการสึกหรอแค่นี้นับว่าทำได้ดีและทนมากๆ โดยเฉพาะเมื่อย้อนกลับไปดูราคาคู่ละแค่ 7,000 ยังไงก็คุ้ม นี้ยังไม่นับยางหน้าที่ดูเเล้วแทบจะไม่สะเทือนเลยด้วยนะครับ อีกจุดสังเกตุคือการละลายของยาง ก็ที่เส้น 12 อีกนั้นล่ะผมเคยใช้ยางที่เป็น 2 คอมปาว์ดมาก่อนซึ่งผมรู้ว่าขี่แบบนี้ที่ถนนแบบนี้ เป็นระยะทางแบบนี้ยางหนึบๆจะละลายแบบไหน บางทีจอดรถลงมาดูขอบยางขึ้นบั้งก็เห็นมาแล้ว แต่ลืมไปเลยคุณจะไม่เจอเรื่องเเบบนั้นกับยาง VREDSTINE CENTURO ST (เฟรดเดอร์สไตน์ เซนทูโร่ เอส ที) เพราะยางแทบไม่ละลาย ขุยขึ้นน้อยมาก แต่การยึดเกาะกลับทำได้ดี
ตามข้อมูลโพสก่อนหน้านี้เครมว่าขี่ได้เกิน 20,000 กม. ผ่านมาเดือนครึ่งผมเชื่อเเล้วครับว่ามันจะต้องเกินแน่ๆ และโดยเฉพาะคนที่ขี่แบบธรรมดา หรือไม่ได้บรรทุกหนักมากจะเป็นอะไรที่สบายมากๆเผลอๆแตะ 30,000 กม. ด้วยซ้ำ ก็ทรงยางเริ่มต้นมันทนเเล้วขนาดนี้
พูดข้อดีมาแล้ว #มาดูข้อเสียกันบ้าง
ด้วยความที่ยางเป็นยางคอมปาว์ดเดียว ดังนั้นแน่นอนว่ากับพื้นผิวที่กริ๊ปกากๆ ถนนมันๆ ต้องเพิ่มความระมัดระวังสักหน่อยเช่น ถนนผิวมันอย่างลาดพร้าวการเปิดคันเร่งแรงๆ การกลับรถเปิดคันเร่งแรง มีออกอาการลื่นบ้างนิดหน่อย การเข้าโค้งในจุดที่ดูเเล้วผิวไม่โอเคก็เบาคันเร่งสักหน่อยไหม ซึ่งทั้งหมดนี้ผมใช้เวลาไม่นานก็พอจะรู้นิสัยของมันว่าต้องใช้คันเร่งประมาณไหน ปัจจุบันก็เจอปัญหาเหล่านี้น้อยลงครับ
สรุปเลย
VREDSTINE CENTURO ST (เฟรดเดอร์สไตน์ เซนทูโร่ เอส ที) เป็นยางที่ผมประทับใจมากๆ หลังจากใช้ยางเทพมาเเล้วซึ่งดีจริงเเต่หมดไวไปนิดสำหรับคนมือหนัก มาเจอยางตัวนี้เหมือนมีแสงจากฟ้าส่องลงมา โอ้ว! เทวดามาโปรด ประทับใจมากทั้งทางแห้ง ทางเปียก ทางโค้ง แม้กริ๊ปยางจะไม่ได้วิเศษที่สุดแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานโดยเฉพาะถ้ากริ๊ปมันจะลดลงสักหน่อยแต่ได้ความทนทานขนาดนี้มาผมก็โอเคเลย!
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจลองเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :Vredestein Moto Thailand
Tel 0917895617