จบกิจกรรมครั้งนี้ไปผมคงจะมีเรื่องไว้เล่าให้เพื่อนๆได้ฟังไปอีกนานน…น กับกิจกรรม IRON MAN RALLY 2020 ภายใต้ความตั้งใจอย่างยิ่งยวดของ พี่ตั๊ก-คุณภาณุเดช ศรีเชื้อ Chief Executive Officer จาก บริษัท ไบค์บูติก จำกัด ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ด้วยความร่วมมือที่ดีเลิศเช่นเคย ทั้งภาครัฐ และ เอกชน
“เหตุผลเรื่องความปลอดภัยที่ออกมาจากพี่ตั๊ก จะละเอียดเเละ ลึกซึ้งจนเราคาดไม่ถึงเเละต้องยอมรับฟังอย่างเต็มใจ”
คุณภาณุเดช ศรีเชื้อ Chief Executive Officer จาก บริษัท ไบค์บูติก จำกัด กล่าวช่วงบรีฟทีมงาน
ปีนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแน่นขนัดเช่นเคย เป็น BMW มากถึง 160 คัน และแบรนด์อื่นอีก 11 คัน จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น บรูไน ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย ไต้หวัน และเมียนม่าซึ่งในปีนี้เป็นการเดินทางแบบ All Terrain
คือคุณจะเจอเส้นทางทุกรูปแบบจากการขับขี่ครั้งนี้ โดยระยะทางทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 1,123 กิโลเมตร จาก จังหวัดพิษณุโลกถึง จังหวัดอุดรธานีภายใน 24 ชั่วโมง ยังไม่ต้องคิดถึงคนอื่น โฟกัสที่การเอาชนะตัวเองและก้าวขีดจำกัดเดิมๆให้ได้ก็พอ!!
สำหรับกิจกรรม IRON MAN RALLY 2020 ที่ผ่านมาได้มีกระแสเรียกร้องให้ทางผู้จัดเปิดโอกาสให้กับผู้เข้าร่วมแข่งขันต่างค่ายมาโดยตลอด กระทั่งในปีนี้ก็สมใจเป็นที่เรียบร้อย รับน้องใหม่เข้ามา “ลองของ” ถึง 11 คันด้วยกัน
นอกจากความสนุกสนานและความตื่นเต้น ท้าทายที่จัดเตรียมไว้ให้มากถึง 7 สถานีแล้ว ผู้จัดยังมุ่งเน้นถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ร่วมกิจกรรมและมีการใส่ใจในทุกๆรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นทีมงานพยาบาล รถ Ambulance ซึ่งมีมากถึง 8 คัน คอยประกบ และดักรออยู่ในจุดต่างๆพร้อมประสานงานทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน ตามหลัก Safety first รวมถึง ยังเป็นกิจกรรมที่ ดึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยและวิถีชีวิตในพื้นที่ออกมา สอดแทรกในกิจกรรมได้อย่างลงตัวซึ่งสร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก
Rules!
IRON MAN RALLY 2020 ผู้ร่วมกิจกรรมจะออกสตาร์ทเป็นกลุ่มๆ ละ 4 คน ขี่ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้จาก Application “MAP ME” โดยผู้จัดกิจกรรม ได้วาดแผนที่แต่ละสเตจไว้อย่างชัดเจน ผู้ร่วมกิจกรรมมีหน้าที่แค่ขับให้อยู่ในเส้นทางเพียงเท่านั้น(ฟังดูง่ายๆเนอะ) และจากระยะทางทั้งหมด 1,123 กิโลเมตร จะมีสถานีย่อยอยู่ 7 สถานี
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ห้ามเข้าก่อน หรือ ออกจากสถานีก่อนหรือหลังเวลาที่กำหนดเด็ดขาด หากผิดกติกาจะถูกหักคะแนนทันที เเละห้ามเข้าสถานีก่อน 30 นาทีเด็ดขาด เพราะจะถือว่าคุณขี่รถเร็วมาก ซึ่งอันตราย จะถูกปรับดิสควอลิฟายหมดสิทธิ์รางวัลทันที!! ดังนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องวางแผนเป็นอย่างดี ก็จะผ่านแต่ละสเตจไปได้อย่างง่ายๆ อีกทั้งนอกจากการวางแผนเเล้ว ยังต้องมีวินัยสูงมากจึงจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าใครโดนหักคะเเนนก็อย่าเพิ่งท้อ เพราะในบางสเตจ จะมีกิจกรรมจากสปอนเซอร์ ที่จะมอบคะแนนพิเศษให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยเล่นกิจกรรมที่บูธง่ายๆ เพลินๆ ได้อีกด้วย
Before 1 day
BMW Nithiboon Motorad รับหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน เปิดให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ หาทีม นัดพบ และ จัดเตรียมความพร้อมของรถกันอย่างพร้อมเพรียงบางคันก็เดินทางเข้าพื้นที่มารอแล้วล่วงหน้า โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งเปลี่ยนยาง ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม พร้อมกันนั้นรถแข่งทุกคันจะได้รับการติด GPS จาก Car Track เพื่อติดตามการขับขี่อย่างใกล้ชิด
ซึ่งเทคโนโลยีจาก CARTRACK จะช่วยให้ทีมงานสามารถรู้ตำแหน่งของผู้ขับขี่ได้แบบ Real Time สามารถดูแลและให้ความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา 24 ชม. อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ยังเป็นหัวใจสำคัญในการให้คะแนนหรือหักคะแนนผู้เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้หลังจากติด GPS เรียบร้อยแล้วยังมีส่วนของยาง Metzeler และอุปกรณ์การแต่งกายจาก HELD และเสื้อ Moto-Shirt มาดูแล ผู้ร่วมกิจกรรมอีกด้วย
Start Day at BMW Nithiboon Motorad
หลังจากบรีฟรายละเอียดกันแล้ว ก่อนปล่อยตัวยังได้รับเกียรติจาก คุณชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขึ้นกล่าวทักทายผู้ร่วมกิจกรรม ก็ได้เวลาที่จะต้องออกเดินทาง โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ศูนย์ BMW Nithiboon Motorad จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเสมือนเป็นเจ้าภาพ และเป็นตัวแทนของ BMW ประเทศไทย เเละเจ้าของพื้นที่ ก็ยังลงมาร่วมกิจกรรมกับลูกค้า เเละผู้ใช้ BMW ด้วยซึ่งก็คือ IRM088 คุณเทียนแสง นิตยเมฆินทร์ เจ้าของโชว์รูมที่สนับสนุนสถานที่ เอ้าปรบมือสิครับรออะไร อีกทั้งให้โชว์รูมนิธิบูรณ์เป็นจุดเริ่มต้น โดยกิจกรรมปีนี้จะแบ่งออกเป็น 7 Stageใหญ่ๆ ประกอบไปด้วย
Stage 1 River of Life ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่สะพานวัดราชช้างขวัญเป็นสะพานแขวนก่อนจะไปถึงก็จะมีทางลูกรัง ให้สนุกเล็กน้อยพอหอมปาก หอมคอ
Stage 2 Mountain of life นครไทย เนินมะปราง เขาหินปูน รูท 12 ฐานนี้หลายท่านชอบมากเพราะเป็นเส้นทางที่ถูกขนาบด้วยภูเขาทั้ง 2 ด้าน บรรยากาศสวยเป็น Unseen Thailand นอกจากนั้นยังตัดผ่าน Route 12 อีกด้วย
Stage 3 Darkness is begin ด่านซ้าย ภูสวนทราย สเตจนี้บอกเลยครับว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องประสานงานกันให้ดีๆ เนื่องจากความมืดและเส้นทางที่เข้าป่าเข้าดงกันในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน!! ซึ่งพอออกจากป่าก็มีการจัดเตรียม “ผี(ตาโขน)” อันเป็นสัญลักษณ์ของด่านซ้ายจังหวัดเลยไว้คอยบริการปั๊มตราสเตจนี้ให้อีกด้วย
Stage 4 Ride to the northeast ที่ภูเรือ ขี่ตัดอุทยานแห่งชาติกันเลย แต่เดี๋ยวก่อนจะดราม่ากัน เส้นทางนี้ทางทีมงานได้ทำการขออนุญาตทางราชการเป็นที่เรียบร้อยและได้ใช้เส้นทางสัญจรที่ไม่รบกวนกับผู้อื่นและสัตว์ป่า ซึ่งเมื่อผ่านจุดนี้ไปก็จะได้พักกันก่อน 2 ชั่วโมง ก่อนลุยกันต่อกับ สถานีไฮไลท์ประจำค่ำคืนนั่นคือ…
“ภาพที่ได้ ไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม”
คุณภาณุเดช ศรีเชื้อ Chief Executive Officer จาก บริษัท ไบค์บูติก จำกัด กล่าวช่วงบรีฟการทำงานของทีมช่างภาพ
Stage 5 The Jungle Night สถานีนี้บอกเลยว่า อาจจะโหดเกินไปกว่าที่คิดสักเล็กน้อยเนื่องจากมีอุปสรรคเป็นทางชันพอสมควรและลักษณะพื้นเป็น กรวด มีหินลอย เเละยังมีร่องน้ำอีก! ทำให้มีการติดขัดและ ล้มลุกคลุกคลาน แก้ง่วงเอาใจสายฝุ่นกัยแบบสนุกสนานตอนตี 4 ตี 5 แหม่บันเทิงจริงๆ (555) คนที่ผ่านไปแรกๆ ไม่เท่าไร คนที่ตามมาชุดหลังๆ กว่าจะพ้นตรงนี้หมด ไม่ทันไรแสงอาทิตย์ที่หลายคนรอคอยก็เริ่มเฉิดฉายขึ้นมาอีกครั้งเป็นสัญญาณของการที่เราจะเข้าสู่สถานีที่ 6 เสียเวลาตรงนี้ไปมาก จะทันมั้ยเนี้ย!!??
Stage 6 Way of dust(metzeler) สถานีพิเศษที่จะให้คุณดื่มด่ำกับฝุ่นกันแบบเต็มๆ เเละยังได้ระเบิดอารมณ์หลังออกจากป่ามาขี่บนทางลูกรัง ที่มีความสูงจากพื้นดินรอบข้าง 4-5 เมตรตลอดทางยาวมากกว่า 22 กิโลเมตร บิดกันให้เต็มที่ เบิร์นให้ฝุ่นท่วม!! ขอแค่อย่าร่วงลงไปข้างทางก็พอ เพราะลำพังช่างภาพคงจะดึงพี่เเละรถขึ้นมาไม่ไหว(555+) จากนั้น ประมาณ 8 โมงเช้าก็จะมาถึงจุดไฮไลท์อีกจุดหนึ่งซึ่งบอกแล้วว่าเลอะเทอะมาทั้งวัน ก็มาล้างเนื้อล้างตัวที่นี่เลยครับนั่นคือสถานีสุดท้าย(แต่บางคนก็ไม่ได้ตั้งใจมาล้างหรอกนะ แต่เผอิญล้ม อยากดูมั้ย ถ้าคำตอบคืออยาก เดี๋ยวจัดให้ 55)
Stage 7 No water no finish ซึ่งก็คือฝายน้ำล้นบริเวณสะพานข้ามลำปาว สถานีนี้จะทดสอบความนิ่งของคันเร่งครับ เพราะว่าบนทางปูนที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้านั้น หากขี่เร็วไป หรือ บาลานซ์รถไม่ดี คุณอาจจะได้เปียกทั้งตัวแบบที่ไม่ได่ได้ตั้งใจ ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆที่รอคิวขี่ผ่านแบบ One by One เมื่อผ่านพ้นจุดนี้ไปก็จะมุ่งหน้าขึ้นสู่จังหวัดอุดรธานี เพื่อเช็คพ้อยสุดท้ายและเข้าโรงแรมรับเหรียญรางวัลกันแล้ว จบแล้ว(ว้อยยย)
สิ้นสุดการเดินทาง…
ก่อนจะมาสิ้นสุดกิจกรรมที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์จังหวัดอุดรธานี โดยผู้ร่วมกิจกรรมทั้งหมดต่างทยอยกันมาถ่ายรูปที่ Backdrop ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่อย่านอนนานนะพี่ 18:30 งัดตัวเองขึ้นจากเตียง แล้วลงมางานปาร์ตี้รับรางวัลกัน
ซึ่งมีรางวัลใหญ่ทั้งสิ้น 5 รางวัลด้วยกัน โดยได้รับเกียรติจากเหล่าสปอนเซอร์ และ คุณวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะ ผลรางวัลปรากฎว่า.
ตำแหน่งแชมป์เป็นของ IRM033 คุณสมกร ราชนิกร รับ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท รองชนะเลิศ อันดับ1 IRM040 คุณศุภชัย รุ่งอารยะทรัพย์ รับ Gift Voucher มูลค่า 50,000 บาท รองชนะเลิศ อันดับ2 IRM016 คุณสมบูรณ์ พึ่งกิจ รับ Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท รองชนะเลิศ อันดับ3 IRM041 คุณศักดิ์ชัย กาญจนรุจิ รับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท และรองชนะเลิศ อันดับ4 : IRM025 คุณธวัชชัย ชีวเสถียรชัย รับ Gift Voucher มูลค่า 5,000 บาท และยังมีรางวัลพิเศษจากยาง Metzeler เเละน้ำมันเครื่อง LIQUI MOLY อีกด้วย
ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ที่ทุกๆครั้งที่จัด ก็จะมีอะไรตื่นเต้นมาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ลุ้นใหม่ตลอด ซึ่งปีนี้หลายๆท่านที่ร่วมกิจกรรมต่างชื่นชมผู้จัดเป็นอย่างมากในเรื่องของการวางเส้นทางซึ่งมักจะบอกว่า
“พี่เลือกเส้นทางได้เจ๋งมาก”
“ไหนว่าทางง่ายไง”
“พี่หลอกผม”
“มียากกว่านี้มั้ย”
“จบเเล้วว้อยย”
“ครั้งหนึ่งในชีวิต”
“น้องในทีมบอกว่าทางง่ายๆขี่สบายๆ”
“!@#%^^$!#%$%%$#@#@!!!”
และ…
“มาเถอะครับไม่ผิดหวังครั้งหนึ่งในชีวิต กับการได้เป็นผู้ที่ชนะใจตัวเอง”
จากใจ แอดมิน…
…บอกเลยตลอดอาชีพตลอดสายงานที่เกี่ยวข้องกับวงการ 2 ล้อมา กิจกรรมครั้งนี้เป็นโคตรของโคตร The Best !! ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยซ้อนรถใครนานขนาดนี้มากกว่า 24 ชั่วโมงที่อยู่บนเบาะ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็เจ๋งจริงๆ สำหรับผมถ้าไม่เชื่อมือจริงๆ ไม่ซ้อนเด็ดขาดด้วยซ้ำ ถึงจะไม่มีใบเซอร์เป็นกระดาษ แต่ผมได้เป็นการยอมรับตัวเองนะ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเราจะอดนอนเเละทำหน้าหน้าที่บนหลังมอเตอร์ไซค์ได้นานขนาดนี้ … มีช่วงหนึ่งของคำถามบนเวที ซึ่งพิธีกรถามกับลูกค้าคนหนึ่งว่า ชอบสถานีไหนมากที่สุดลูกค้าตอบว่าสถานีสุดท้ายคือสเตจ 7
ทุกคนงงผมก็แปลกใจเพราะสถานีสุดท้ายแค่ขับไปให้ถึงและประทับตราจากนั้นก็เข้าที่พักได้เลย พิธีกรก็สงสัยเช่นเดียวกันเลยถามว่า ทำไมถึงชอบสถานีนี้? >> ลูกค้าคนนั้นตอบว่า “เพราะผมรู้แล้วว่ามันจะจบลงสักที” ผมก็เข้าใจได้ทันที และมั่นใจว่าหลายคนที่ร่วมกิจกรรมก็เข้าใจ…
ปีหน้าใครคิดว่าเจ๋งก็มาครับ อย่าเเค่คิด คิดง่ายกว่าทำเยอะ เพราะในทริป ผมเห็นมีคนเจ๋งๆเพียบถึก ทน แต่สุดท้ายเเค่ประคองผ่านก็เยอะ เลิกกลางทางก็มี ขี่ไปขอเข้าโรงแรมเลยก็มี เรียกได้ว่าต้องมีความมุ่งมั่นสูงจริงๆ
ขอขอบคุณทาง Wunderlich Thailand ขอบพระคุณพี่ตั๊ก ที่ได้ให้โอกาส Bikers Thailand เข้าร่วมกิจกรรมแบบใกล้ชิดสุดๆในครั้งนี้ ขอบคุณทีมงาน เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ให้การดูแลเป็นอย่างดี น้ำดื่ม ผ้าเย็น เครื่องดื่มชูกำลัง มาไม่ขาดและ ขอบคุณชีวิตที่อยู่ลืมตาบนโลกมาจนได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ปีหน้า 2021 เห็นว่าเริ่มวางเส้นทางกันใหม่แล้ว…ให้เขียนใบลางานรอเลยไหมครับ…
ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนในกิจกรรม IRON MAN RALLY 2020
Bike Boutique ,BMW MOTORRAD ,MCOT ,Cartrack ,Nithiboon MOTORRAD ,Metzeler by Mez Motowork ,Wunderlich Thailand ,Held Thailand ,Kabuto Thailand ,LIQUI MOLY ,Nut Motorrad ,MOTOSPORTING ,CENTARA UDONTHANI ,บ้านสะปัน RETREAT ,SKY MOTORRAD ,UDONTHANI RIDER CLUB และที่ขาดไม่ได้คือ ทีมเซฟตี้ Standby Ambulance Service Co., Ltd. ที่คอยดูแลผู้ร่วมกิจกรรมอย่างไกล้ชิด